ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเข้าสู่หน้าร้อนระอุ โดยเฉพาะประเทศฝั่งยุโรปที่เป็นช่วง High Season ด้านการท่องเที่ยว จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าในช่วงกลางปีของออสเตรเลีย ซึ่งตรงกับเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเต็มตัว และมีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับฤดูหนาวของออสเตรเลียที่ผู้คนมักจะเข้าใจผิด วันนี้เราจะมาไขความจริงเกี่ยวกับความเชื่อผิด ๆ เหล่านั้นกัน
หิมะไม่ตกในออสเตรเลียเลย...ไม่จริง
ที่มาภาพ : freepik.com
หนึ่งในความเข้าใจผิดอันดับต้น ๆ เกี่ยวกับสภาพอากาศและภูมิประเทศในออสเตรเลียเลยก็ว่าได้ อาจเป็นเพราะเมื่อพูดถึงหิมะหรือสกีรีสอร์ท คนส่วนใหญ่มักนึกภาพสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปหรือประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมากกว่า แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของออสเตรเลียจะเป็นที่แห้งแล้งหรือกึ่งแห้งแล้ง มีพื้นที่ที่มีภูมิอากาศหลากหลาย ทั้งป่าฝน ป่าไม้เขียวชอุ่ม และพื้นที่ชายฝั่งทะเล รู้หรือไม่ว่าออสเตรเลียมีแนวเทือกเขาที่เรียกว่า Australian Alps ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในรัฐวิกตอเรียและนิวเซาท์เวลส์ บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทและสโนว์บอร์ดชื่อดังระดับโลกหลายแห่ง เช่น Perisher, Thredbo, Falls Creek และ Mount Buller ที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวและนักกีฬาสกีในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้รัฐแทสเมเนียและบางพื้นที่สูงทางตอนใต้ ก็อาจมีหิมะตกให้เห็นเช่นกัน อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวทำกิจกรรมควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง และอย่าลืมตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง
ออสเตรเลียร้อนตลอด 365 วัน...ไม่จริง
ที่มาภาพ : CHUTTERSNAP on Unsplash
แม้ว่าประเทศจะมีชื่อเสียงเรื่องชายหาด ทะเล และอากาศอบอุ่น แต่ในช่วงฤดูหนาวหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศจะมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิในเมืองใหญ่อย่างเมลเบิร์น แอดิเลด หรือแม้แต่ซิดนีย์อาจลดลงต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส หรือบางครั้งก็เข้าใกล้จุดเยือกแข็งในเวลากลางคืน อย่างไรก็ตามสภาพอากาศมักมีความผันผวนในตอนกลางวัน แม้จะเย็นแต่ก็ไม่ได้หนาวจัดตลอดเวลาเหมือนบางประเทศในซีกโลกเหนือ ส่วนในควีนส์แลนด์ฤดูหนาวอากาศจะสบาย ๆ แห้ง และแดดจัด ไม่จำเป็นต้องมีเสื้อกันหนาวหนามาก แค่เสื้อแขนยาวหรือแจ็คเก็ตบาง ๆ ก็พอ และสำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะเราอาละเลยเมื่ออากาศเย็นสบายตัว ไม่เหนาะหนะเหมือนหน้าร้อน แต่ร่างกายก็ยังคงสูญเสียน้ำในสภาพอากาศแห้ง หรือจากเครื่องทำความร้อนในบ้าน
ฤดูหนาวคือช่วง Low Season ไม่มีกิจกรรมกลางแจ้ง...ไม่จริง
ที่มาภาพ : Todd Cravens on Unsplash
แม้ว่าการว่ายน้ำทะเลอาจจะเย็นเกินไปสำหรับหลายคน แต่ฤดูหนาวในออสเตรเลียเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินป่าโดยเฉพาะในเส้นทางที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม หรือการปั่นจักรยาน อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนฤดูร้อน ทำให้เหมาะกับการเดินป่าระยะไกลหรือปีนเขา อีกทั้งเป็นช่วงฤดูที่เหมาะสำหรับการชมวาฬ (Whale Watching) เนื่องจากเป็นฤดูที่วาฬอพยพจากน่านน้ำเย็น ๆ เช่น วาฬหลังค่อม (Humpback Whales) และวาฬทางใต้ (Southern Right Whales) ซึ่งเดินทางจากมหาสมุทรแอนตาร์กติกขึ้นมายังน่านน้ำอุ่นทางชายฝั่งออสเตรเลีย ทำให้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมวาฬตามแนวชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของออสเตรเลีย จุดชมวาฬยอดนิยมในควีนส์แลนด์ได้แก่ เฮอร์วีย์เบย์ (Hervey Bay) ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งการชมวาฬของโลก" เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมวาฬหลังค่อมในควีนส์แลนด์ หรือจะเดินทางไปยังซันไชน์โคสต์ มีทัวร์ล่องเรือชมวาฬออกจากมูโลลาบา (Mooloolaba) เช่นกัน
เราไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดดในฤดูหนาว...ไม่จริง
ที่มาภาพ : Onela Ymeri on Unsplash
ท้องฟ้าประเทศออสเตรเลียมักปลอดโปร่งและมีมลพิษในอากาศน้อย ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อการใช้ชีวิต ในทางกลับกันนั่นหมายถึงมีสิ่งกีดขวางรังสี UV น้อยลง ทำให้ออสเตรเลียมีระดับรังสี UV ที่สูงมากตลอดทั้งปี แม้ในวันที่มีเมฆมากหรืออากาศเย็นสบาย รังสีอัลตราไวโอเลตยังคงทะลุผ่านและทำร้ายผิวหนังได้การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิว และสวมหมวกกันแดด จึงยังเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในทุกฤดู ต่างกับฤดูหนาวของประเทศในซีกโลกเหนือที่ปริมาณแสงแดดและรังสี UV จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันแสงแดดเป็นอย่างมาก เพื่อลดความเสี่ยงผิวหนังแก่ก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง ซึ่งออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่คนมีอัตราการเกิดมะเร็งผิวหนังสูงที่สุดในโลก
ไม่มีภัยธรรมชาติในฤดูหนาว...ไม่จริง
ที่มาภาพ : Serg Balak on Unsplash
แม้ว่าฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อไฟป่าและพายุไซโคลนสูง แต่ในฤดูหนาวก็ยังคงมีความเสี่ยงจากน้ำท่วมฉับพลันในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในรัฐที่มีปริมาณฝนตกสูง รวมถึงพายุฤดูหนาวที่อาจนำมาซึ่งลมแรงและฝนตกหนักได้ พายุที่รุนแรงพร้อมกับลมกรรโชกแรงจัด อาจเกิดขึ้นได้ตามแนวชายฝั่ง โดยเฉพาะทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในฤดูหนาว พายุเหล่านี้อาจมาพร้อมกับฝนตกหนัก ฟ้าร้อง และลมที่ทำลายโครงสร้างบ้านเรือน ต้นไม้หักโค่น และทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อีกทั้งในช่วงฤดูหนาวตอนเช้าตรู่หรือช่วงพลบค่ำ หมอกหนาจัดอาจปกคลุมในหลายพื้นที่ รวมถึงเมืองใหญ่และถนนหลวง ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลงอย่างรุนแรงและนำไปสู่อุบัติเหตุได้ง่าย แม้ว่าภัยธรรมชาติเหล่านี้อาจไม่ได้รับความสนใจเท่าไฟป่าหรือพายุไซโคลนที่เกิดขึ้นในฤดูร้อน
ยังมีรายงานจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย (Bureau of Meteorology) เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2025 เตือนว่าพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียจะยังคงเผชิญกับลมกระโชกแรง ฝนตก และหิมะตกในบางพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของสภาพอากาศฤดูหนาวที่รุนแรงกว่าปกติ
บ้านในออสเตรเลียอบอุ่นเหมือนบ้านในยุโรปหรืออเมริกา...ไม่จริง
ที่มาภาพ : Photo by DAWN HIGHAM on Unsplash
บ้านส่วนใหญ่ในออสเตรเลียไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับความหนาวเย็นเท่าที่ควร บ้านออสเตรเลียจำนวนมากโดยเฉพาะบ้านเก่าที่สร้างขึ้นก่อนปี 2000 ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในฤดูร้อนเป็นหลัก เน้นการระบายอากาศและลดการสะสมความร้อน ในอดีตมาตรฐานการก่อสร้างไม่ได้กำหนดให้มีฉนวนกันความร้อน (insulation) ที่หนาแน่น หรือบางครั้งก็ไม่มีเลยในผนังและพื้น (โดยเฉพาะบ้านไม้ที่ยกสูง) ต่างจากประเทศเมืองหนาวที่มีข้อกำหนดเรื่องฉนวนที่เข้มงวดกว่ามาก ผลลัพธ์คือภายในบ้านเย็นกว่าข้างนอก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน อีกทั้งบ้านหลายหลังมีช่องว่างตามประตู หน้าต่าง พื้น หรือผนัง ทำให้ลมเย็นจากภายนอกสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ง่าย ทำให้ความอุ่นจากเครื่องทำความร้อนก็รั่วไหลออกไปได้ หลายคนถึงกับต้องใส่เสื้อกันหนาวหนา ๆ หรือใช้เครื่องทำความร้อนแบบพกพาภายในบ้านเลย
ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวจะถูกลงมากในฤดูหนาว...ไม่จริง
ที่มาภาพ : northernterritory.com
แม้ว่าบางพื้นที่ท่องเที่ยวชายหาดอาจมีราคาที่พักลดลงบ้างเล็กน้อย แต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับฤดูหนาวโดยตรง เช่น สกีรีสอร์ทราคาจะพุ่งสูงขึ้นมาก และอาจต้องจองล่วงหน้าเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าครองชีพโดยรวมในเมืองใหญ่ก็ยังคงสูงอยู่ อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเวลาที่ดีที่จะไปเที่ยวเมืองชายทะเล เพราะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น อย่างเช่นควีนส์แลนด์ตอนเหนืออย่างเมืองแครนส์ (Cairns)และ หมู่เกาะวิตซันเดย์ (Whitsundays) เหมาะสำหรับการสำรวจแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญใจกลางประเทศอย่าง อูลูรู (Uluru) และอลิซสปริงส์ (Alice Springs) ที่ไม่ได้เดินทางกันไปได้ง่าย ๆ ด้วยการเดินทางและสภาพอากาศ ช่วงกลางปีเป็นช่วงเวลาที่ดีในการออกไปสัมผัสธรรมชาติแบบไม่ร้อนทรมานจนเกินไป เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่เที่ยวได้ทุกฤดูกาลเลยก็ว่าได้
ออสเตรเลียไม่มีเทศกาลหรือกิจกรรมสำคัญในฤดูหนาว...ไม่จริง
ที่มาภาพ : abc.net.au
ฤดูหนาวในออสเตรเลียมีเทศกาลและกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายอย่างเช่นงาน “Vivid Sydney” เทศกาลประจำปีสุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นการเฉลิมฉลองความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และเทคโนโลยี ที่เปลี่ยนเมืองซิดนีย์ให้กลายเป็นพื้นที่จัดแสดงศิลปะกลางแจ้งที่ตระการตาตลอด 23 คืน หรือจะงาน “Dark Mofo” เทศกาลศิลปะและดนตรีฤดูหนาวสุดแปลกใหม่ในโฮบาร์ต แทสเมเนีย จัดโดย MONA (Museum of Old and New Art) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของแทสเมเนีย และมีชื่อเสียงในด้านการจัดแสดงผลงานที่แหวกแนวและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมเนียม Nude Solstice Swim พิธีกรรมปิดท้ายเทศกาลที่เป็นเอกลักษณ์และสร้างชื่อเสียงให้กับ Dark Mofo โดยผู้เข้าร่วมหลายพันคน จะเปลื้องผ้าและวิ่งลงไปว่ายน้ำในแม่น้ำเดอร์เวนต์ที่เย็นจัดในช่วงรุ่งสางของวันเหมายัน เพื่อต้อนรับการกลับมาของแสงสว่าง
รวมถึงเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส...ใช่ อ่านไม่ผิด ในช่วงกลางปี ในบางเมืองของออสเตรเลียมีการจัดงานที่คล้ายคลึงกับตลาดคริสต์มาสที่รู้จักกันในชื่อ "Christmas in July" ในช่วงกรกฎาคมที่หนาวที่สุดของฤดูหนาวในออสเตรเลีย เหมาะสมอย่างยิ่งในการจำลองบรรยากาศคริสต์มาสแบบ "ยุโรป" ที่อบอุ่นและมีหิมะเหมือนประเทศอื่น ๆ การฉลอง Christmas in July มักจะเน้นไปที่การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นด้วยการตกแต่งบ้าน, ทานเนื้ออบและไวน์ร้อน, การสวมเสื้อกันหนาวล้อเลียนในสไตล์คริสต์มาส (Ugly Christmas Sweaters) และการรวมตัวสังสรรค์กับเพื่อนฝูงและครอบครัว โดยทั่วไปแล้ว ไม่มีการแลกเปลี่ยนของขวัญใหญ่โตเหมือนคริสต์มาสในเดือนธันวาคม
แม้ว่าฤดูหนาวของออสเตรเลียจะเกิดขึ้นไม่กี่เดือน แต่การเตรียมพร้อมอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพของเราซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้ว่าการป่วยไข้ไม่ได้เกิดจากอุณหภูมิที่เย็นโดยตรง แต่เกิดจากการแพร่กระจายของเชื้อเมื่อผู้คนอยู่รวมกันในพื้นที่ปิดในช่วงฤดูหนาว ขอให้ทุกคนสุขภาพร่างกายแข็งแรง เพลิดเพลินไปกับฤดูหนาวในออสเตรเลียอย่างเต็มที่ ให้ช่วงครึ่งปีหลัง 2025 มีแต่ความสุข สนุกอย่างเต็มเปี่ยม
